โรคเอดส์ ไม่ใช่โรคที่จะถ่ายทอดเชื้อโรคจากคนหนึ่งสู่คนหนึ่งได้ง่ายๆ  กระบวนการในการถ่ายทอดเชื้อโรคจะต้องผ่านขั้นตอนการมีเพศสัมพันธ์ หรือการรับเชื้อทางกระแสเลือดเพียงเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังมีอีกหลายคนที่ยังไม่รู้ว่าการกระทำอะไรบ้างที่จะมีผลทำให้คุณเป็นหนึ่งในผู้ติดเชื้อเอดส์ วันนี้เราจะมาไขข้อข้องใจกันค่ะ

การเรียนรู้วิธีในการป้องกันตัวเองไม่ให้ได้รับเชื้อเอดส์ ไม่ใช่ที่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป เพราะทุกวันที่เราใช้ชีวิตอยู่บนโลก และพบเจอกับบุคคลอื่นๆมากมาย เราไม่อาจรับรู้ได้ว่า คนที่เดินสวนทางกับเรามีเชื้อ HIV อยู่ในร่างกายหรือไม่ เพราะวิทยาการทางการแพทย์ในสมัยนี้ สามารถปกปิดอาการป่วยจากโรคเอดส์ได้เป็นอย่างดี เพราะฉะนั้น จะเป็นการดีกว่า ถ้าเรารู้จักการป้องกันตัวเองด้วยวิธีการที่ถูกต้อง เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของตัวคุณเอง

ภาพจาก : http://www.healthcareasia.org/2012/a-cure-for-aids-in-sight/

   วันนี้เราจะมาเรียนรู้กันว่า อะไรบ้างที่จะส่งผลให้เกิดการติดเชื้อ HIV หรือ อะไรบ้างที่ควรทำเพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อวายร้ายตัวนี้

  1. ถ้าป้องกันอย่างถูกต้อง…ก็ไม่ติด

เป็นที่ทราบกันดีว่า วิธีการป้องกันเอดส์ที่ได้ผลดีที่สุด ก็คือ การไม่มีเพศสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่ไม่ใช่ทุกคนที่จะทำเช่นนี้ได้ ทำให้จำเป็นต้องมีวิธีในการป้องกันขณะที่มีเพศสัมพันธ์กัยคู่นอนที่ไม่ใช่สามีหรือภรรยาของตัวเอง การป้องกันระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างมาก แต่จะต้องป้องกันมากน้อยแค่ไหนจึงจะทำให้มั่นใจว่า การมีเพศสัมพันธ์ทุกครั้งจะปลอดภัยไร้เชื้อ HIV

การสวมถุงยางอนามัย เป็นวิธีขั้นพื้นฐานที่ทุกคนควรทำทุกครั้งเมื่อคิดจะมีเพศสัมพันธ์ ถุงยางที่ทำจากยาง latex condom หรือ dental dam ถือเป็นวัสดุที่เหมาะสมต่อการป้องกันการติดเชื้อทางเพศสัมพันธ์ได้ดี แต่ถ้าหากคุณเป็นคนแพ้ยาง latex ก็ให้ใช้ถุงยางชนิด polyurethane แทน นอกจากการเลือกใช้ชนิดของถุงยางแล้ว ก็ยังต้องเรียนรู้วิธีใช้ถุงยางที่ถูกต้องด้วย ไม่ควรอย่างยิ่งกับการใช้สารหล่อลื่นที่เป็นไขมัน เพราะสารพวกนี้จะทำให้เกิดถุงยางเกิดโอกาสรั่วได้สูง นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหรือทางปาก เพราะก็เป็นอีกความเสี่ยงที่ทำให้ติดเชื้อ HIV ได้ไม่น้อยเลย

เพียงแค่การสวมถุง อาจจะยังไม่เพียงพอต่อการป้องกันได้ร้อยเปอร์เซนต์  การสวมถุงมือก็ถือเป็นอีกขั้นตอนที่สำคัญเวลาที่ต้องสัมผัสกับน้ำหลั่งของคู่นอน เนื่องจาก หากเรามีบาดแผลเปิดที่บริเวณผิวหนัง และไม่ได้ป้องกันอย่างเต็มที่ ก็จะเป็นอีกหนึ่งแนวทางที่ทำให้คุณติดเชื้อ HIV ได้ นอกจากนี้ หลังจากถอดถุงมือแล้ว ก็ควรที่จะล้างมือด้วยสบู่และน้ำสะอาดอีกครั้งหนึ่ง เพื่อให้มั่นใจในเรื่องความสะอาดให้มากที่สุด

ถ้าไม่ใช้เข็มฉีดยาหรือของมีคมร่วมกับผู้อื่น…ก็ไม่ติด

การใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน เป็นแนวทางแห่งความเสี่ยงที่ทำให้คุณติดเชื้อ HIV ได้ง่าย รวมไปถึงการฉีดยาเสพติดเข้าเส้น ก็เสี่ยงเช่นเดียวกันต่อการได้รับเชื้อ HIV ดังนั้น หากเป็นไปได้จึงควรเข้ารับการบำบัดเพื่อหยุดยาเสพติด และเพื่อหลีกเลี่ยงการใช้เข็มฉีดยาเสพติดร่วมกัน ส่วนการเข้ารับการฉีดยาหรือเข้ารับการบริจาคเลือดทุกครั้ง คุณก็ต้องมั่นใจว่า พยาบาลได้ใช้เข็มฉีดยาอันใหม่ที่ผ่านการฆ่าเชื้อมาแล้วอย่างดี เพราะการใช้เข็มร่วมกัน เท่ากับเป็นการแพร่กระจายเชื้อโรคที่คนรับไม่มีโอกาสได้ป้องกันตัวเลยแม้แต่น้อยนอกเหนือจากเข็มฉีดยาแล้ว การไม่ใช้ของมีคม เช่น มีดโกน กรรไกรตัดเล็บ เป็นต้น ร่วมกับผู้อื่น ก็เป็นอีกแนวทางการป้องกันการติดเชื้อ HIV ได้ดี เนื่องจากอุปกรณ์เหล่านี้มีความเสี่ยงเป็นอย่างมากที่จะเกิดบาดแผลบนผิวหนังของเรา ซึ่งเลือดที่ติดมาก็เป็นต้นเหตุแห่งการเชื่อมโยงเชื้อโรคจากคนหนึ่งสู่อีกคนหนึ่งได้

3. ถ้าไม่สัมผัสสารคัดหลั่งของผู้อื่น…ก็ไม่ติด

สารคัดหลั่งในที่นี้รวมตั้งแต่ น้ำเหลือง น้ำมูก น้ำลาย ปัสสาวะ และสิ่งขับถ่ายต่างๆ เพราะสารเหล่านี้ล้วนมีโอกาสที่เชื้อเอดส์จะปะปนออกมาได้ การบ้วนน้ำลายหรือเสมหะจึงควรใช้ภาชนะรองรับที่สามารถนำไปทิ้งหรือทำความสะอาดได้โดยสะดวก ส่วนการเข้าห้องน้ำก็ควรระมัดระวังอย่าให้สิ่งขับถ่าย ต่างๆเปรอะเปื้อนพื้น โถส้วม หรือบริเวณโดยรอบได้ แต่ในกรณีที่ท่านใดบังเอิญไปสัมผัสกับสารคัดหลั่งเหล่านี้เข้า ก็ให้รีบทำความสะอาดเนื้อตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าทันที ซึ่งเสื้อผ้าที่สัมผัสกับสารคัดหลั่งเหล่านี้ ก็ควรนำไปซักให้สะอาด ก่อนจะนำไปใช้ในครั้งต่อไป

อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่า “เอดส์ไม่ใช่โรคร้ายที่ติดต่อง่ายเหมือนไข้หวัด” การจะได้รับเชื้อเอดส์เข้าสู่ร่างกายได้นั้น ต้องเกิดมาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม หรือขาดความระมัดระวังในการป้องกันตัวเอง ซึ่งหากคุณมั่นใจว่าเป็นคนที่มีวินัยในตัวเองอย่างเคร่งครัด ก็วางใจได้เลยว่า ไม่ว่าคุณจะต้องใช้ชีวิตร่วมกันกับผู้ป่วยโรคเอดส์คนอื่นๆ คุณก็จะไม่เข้าข่ายกลุ่มเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคชนิดนี้แน่

เราทุกคนสามารถควบคุมการแพร่กระจายของเชื้อโรคตัวร้ายนี้ได้ เพียงแค่เราทำตามวิธีการที่ถูกต้อง หากทั้งผู้กระจายเชื้อและผู้รับเชื้อมีวิธีการในการป้องกันที่ดี ก็ย่อมมีผลให้เชื้อโรคเอชไอวี ไม่สามารถแพร่กระจายเพิ่มเติมออกไปในวงกว้างได้อย่างแน่นอน