บทความของ M-CAB
การอบรมสัมมนาเรื่องการวิจัยทางคลินิกที่ดีและการปกป้องผู้เข้าร่วมการวิจัย
วันที่ 11 – 12 ธันวาคม 2556 ณ บางแสน ชลบุรี
การอบรมสัมมนาเรื่องการวิจัยทางคลินิกที่ดีและการปกป้องผู้เข้าร่วมการวิจัย
วันที่ 11 – 12 ธันวาคม 2556 ณ บางแสน ชลบุรี
วัตถุประสงค์การจัดอบรม
- เพื่อพัฒนาเครือข่ายและส่งเสริมคุณภาพชีวิตในกลุ่มชุมชนชายที่มีความหลากหลายทางเพศ
- เพื่อพัฒนาศักยภาพคณะที่ปรึกษาชุมชนชายที่มีความหลากหลายทางเพศและคณะทำงานชุมชนประจำคลินิกชุมชนสีลม ในการดำเนินงานวิจัยทางคลินิก
- เพื่อผลักดันนโยบายและติดตามความคืบหน้าในการทำงานด้านการรณรงค์ป้องกัน งานบริการการรักษา และงานวิจัยเชิงทดลองในมนุษย์ในกลุ่มชายที่มีความหลากหลายทางเพศ
คณะที่ปรึกษาชุมชนชายที่มีความหลากหลายทางเพศและคณะทำงานชุมชนประจำคลินิกชุมชนสีลมได้รับการอบรมเรื่องการปฏิบัติที่ดีเพื่อการมีส่วนร่วม (Good Participatory Practice: GPP) เป็นหลักเกณฑ์ที่กำกับให้ ผู้ให้ทุน ผู้สนับสนุน และผู้ดำเนินงานโครงการวิจัยในมนุษย์ ต้องสร้างการมีส่วนร่วมอย่างมีประสิทธิภาพกับผู้มีส่วนได้เสียในชุมชนในการออกแบบ ดำเนินการ และเผยแผ่ผลการวิจัย โดยมีหลักการสำคัญ 6 ประการคือ ความเคารพ (Respect) ความเข้าใจร่วมกัน (Mutual understanding) ความเที่ยงตรง (Integrity) ความโปร่งใส (Transparency) ความรับผิดชอบ (Accountability) และความเป็นอิสระของผู้มีส่วนได้เสียในชุมชน (Community stakeholder autonomy) และได้รับการอบรมเรื่องการวิจัยทางคลินิกที่ดี (Good Clinical Practice: GCP) เป็นหลักเกณฑ์ที่กำกับให้ ผู้ให้ทุน ผู้สนับสนุน และผู้ดำเนินงานโครงการวิจัยในมนุษย์ ต้องคำนึงถึง การเคารพในบุคคล (Respect for persons) การให้คุณประโยชน์สูงสุด (Beneficence) และความยุติธรรม (Justice) ต่อผู้เข้าร่วมการวิจัย ทั้งในช่วงที่เข้าร่วมการวิจัยและหลังจากเสร็จสิ้นการวิจัยไปแล้ว
โดยสรุปการวิจัยที่ดีจะต้องดำเนินตามขั้นตอนต่อไปนี้คือ สำรวจข้อมูลพื้นฐานเพื่อสร้างรูปแบบการวิจัย ปรึกษากับผู้มีส่วนได้เสีย สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้มีส่วนได้เสีย ให้ความรู้กับผู้มีส่วนได้เสีย สื่อสารกับสาธารณะ วางแผนป้องกันหรือแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นจากการดำเนินโครงการวิจัย เลือกสถานที่ทำการวิจัย พัฒนาโครงการร่างการวิจัย ขอความยินยอมโดยได้รับการบอกกล่าวจากผู้เข้าร่วมการวิจัย มีมาตรฐานในการป้องกัน (เช่นชุดป้องกันการติดเชื้อเอชไอวีขั้นพื้นฐานที่มีใช้ในท้องถิ่น) ดูแลและรักษาการติดเชื้อโรค (เช่นการดูแลการติดเชื้อเอชไอวีในขณะที่เข้าร่วมการวิจัย การรักษาการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ในขณะที่เข้าร่วมการวิจัย) ดูแลและรักษาที่ไม่เกี่ยวข้อกับการติดเชื้อโรค (เช่นการดูแลและรักษาการบาดเจ็บจากหัตถการ การใช้ผลิตภัณฑ์ที่วิจัย หรืออุบัติเหตุอันเกิดจากการเข้าร่วมการวิจัย) ลดอันตรายที่อาจเกี่ยวข้องกับโครงการวิจัย (เช่นการถูกตีตราหรือเลือกปฏิบัติอันเนื่องมาจากการเข้าร่วมการวิจัย) รับและติดตามผู้เข้าร่วมโครงการวิจัย ออกจากโครงการวิจัย ยุติโครงการวิจัย เผยแผ่ผลการวิจัย และเข้าถึงผลิตภัณฑ์หรือหัตถการทางการแพทย์ของโครงการวิจัยหลังสิ้นสุดโครงการวิจัย
คณะที่ปรึกษาชุมชนชายที่มีความหลากหลายทางเพศและคณะทำงานชุมชนประจำคลินิกชุมชนสีลมมีข้อคำถามและข้อคิดเห็นคือ ในกรณีการวิจัยที่เกี่ยวข้องกับอัตลักษณ์ทางเพศหรือดำเนินการวิจัยเฉพาะในกลุ่มความหลากหลายทางเพศ แต่การเปิดเผยอัตลักษณ์ทางเพศอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งกับหลักความเชื่อทางศาสนา เพื่อน ครู ผู้ปกครอง หรือแม้แต่กับสังคมทั่วไป เมื่อพิจารณาตามหลักจริยธรรมในการวิจัยแล้ว ผู้เข้าร่วมการวิจัยที่มีอายุระหว่าง 14-17 ปีต้องได้รับการยกเว้นไม่ต้องขอคำยินยอมเข้าร่วมการวิจัยจากผู้ปกครอง